คนไทยวันนี้หากดูเผินๆอาจจะคิดว่า คงจะมีความสุขกันบ้างแล้ว เพราะอุทกภัยปลายปี 2554 ก็ผ่านพ้นไปแล้ว อาจจะมีคนไทยบางกลุ่มบางสาขาอาชีพที่ยังต้องทนทุกข์กับผลพวงของอุทกภัยอยู่บ้าง แต่โดยภาพรวมก็น่าจะดีขึ้น
ในความเป็นจริงยังมีภัยอีกชนิดหนึ่งที่มันยังฝังตัวอยู่ในจิตใจของคนไทยส่วนหนึ่ง และไม่ทราบว่ามันจะทุเลาเบาบางลงได้อย่างไร
นั่นคือความขัดแย้งในสังคมไทย ที่ก่อตัวมานานหลายปี และแพร่ขยายตัวอย่างเงียบๆคล้ายมะเร็งร้าย
แม้รัฐบาลปัจจุบันพยายามที่จะยุติความขัดแย้งในสังคมไทย หลากหลายรูปแบบก็ดูเหมือนจะไร้ผล เพราะตัวผู้นำรัฐบาลก็เป็นหนึ่งในโยงใยของความขัดแย้ง อันมีภาพลักษณ์มาจากการเป็นเครือญาติของอดีตนายกฯท่านหนึ่ง
ความขัดแย้งในสังคมไทยค่อนข้างจะสลับซับซ้อนและมีรูปแบบที่เราๆท่านๆอาจจะไม่เข้าใจ อาทิ ผู้ก่อการรัฐประหาร ปี 2549 วันนี้ผันตัวเองมาเป็น หน.พรรคการเมือง และมีตำแหน่งเป็นประธานคณะกรรมาธิการส่งเสริมและพัฒนาความปรองดอง ในรัฐสภา ทั้งๆที่ภาพลักษณ์คือผู้ก่อให้เกิดความขัดแย้งเส้นหนึ่งในสังคมไทย
รัฐบาลชุดที่แล้วตั้งคณะกรรมการปรองดองขึ้นคณะหนึ่งเรียกชื่อย่อๆว่า คอป. ก็ไม่ได้รับการยอมรับจากทุกฝ่าย ทนทำงานมานานหลายเดือน เข็นรายงานออกมาชิ้นหนึ่งสรุปสาเหตุความขัดแย้งของคนไทยวันนี้ รัฐบาลปัจจุบันใจกว้างยอมรับรายงานนี้
แต่เผอิญสถาบันพระปกเกล้าที่มีคนเชื่อถือพอสมควร ทำการวิจัยออกมาชิ้นหนึ่งที่มีความขัดแย้งกับรายงานของ คอป. เป็นเหตุให้ผู้นำฝ่ายค้านนำมาโจมตีอย่างสะใจ และนี่คือรอยแผลของความขัดแย้งอีกแผลหนึ่ง ที่ดูเหมือนจะเป็นแผลร้ายแรงพอสมควร
สรุป ณ นาทีนี้ว่า ปัญหาความขัดแย้งของคนไทยวันนี้ เสมือนคนตาบอดคลำช้าง ที่มีความเห็นกันไปคนละทาง เพราะตาบอดไม่เห็นความจริงด้วยกันนั่นเอง